สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างจริงจังการวิ่งก็คงเป็นตัวเลือกต้นๆในการลดน้ำหนัก เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย และไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ใดๆ

ประโยชน์การวิ่งและการเดินออกกำลังกาย

  • ช่วยลดน้ำหนัก
  • ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
  • เสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
  • ลดความเครียด ความวิตกกังวล
  • ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น

การวิ่งแบ่งออกเป็น 4 รูปแบบหลัก ได้แก่ เดิน, วิ่งเหยาะ, วิ่ง และวิ่งเร็ว แล้วรู้หรือไม่ว่าต้องวิ่งแบบไหนถึงจะเบิร์นไขมันได้ดีและมีประสิทธิภาพที่สุด เรามีคำตอบให้ทุกท่านค่ะ

เมื่อเปรียบเทียบรูปแบบการวิ่งทั้ง 4 รูปแบบ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าการวิ่งเหยาะๆ เผาผลาญไขมันเป็นสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบการวิ่งทั่วไป แต่ยังมีการออกกำลังกายที่เผาผลาญดีกว่านั้น นั่นคือ การเดิน ซึ่งเผาผลาญไขมันได้เทียบเท่าหรือมากกว่าการวิ่งเหยาะ ซึ่งเหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก

สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แนะนำให้เริ่มเดินออกกำลังกาย จะดีที่สุด ถ้าเราเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งบางครั้ง น้ำหนักตัวที่มาก ของเรา จะทำให้การวิ่งมีปัญหา เช่น เหนื่อยง่าย กว่าปกติ เพราะเหมือนเรากำลังวิ่งแล้วแบกของหนัก ๆ ไปด้วย การเดินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด  ที่สำคัญ ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก หรือ ต้องการออกกำลังกายแบบเบา คือการเดินต้องตั้งเป้าหมายกับตนเอง มาตรฐานขึ้นต่ำ ของการเดินออกกำลังกายต่อวัน ไม่ควรต่ำกว่า วันละ 22 นาที อาจจะ แบ่งเป็นสองช่วงได้ ช่วงเช้า เดินต่อเนื่อง 12 นาที ช่วงเย็น เดินอีก 12 นาที เป็นต้น

เพื่อการลดน้ำหนัก จริงจัง องค์การอนามัยโลก แนะนำไว้ว่า ควรเดิน ประมาณ วันละ 1 ชม 40 นาที โดยการเฉลี่ยเวลาทั้งวัน แบ่งเป็นช่วง ๆ ได้ เช่น เช้า และ เย็น เทียบเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร/วัน แต่ถ้าเราเดินเร็ว ระยะทางจะใช้แค่ 3.5 กิโลเมตร นั่นเป็นเพราะว่า การเดิน เป็นการใช้ความหนักในการออกกำลังกายไม่มาก ทำให้ได้ระยะทางไกลกว่าและเผาผลาญไขมันมากกว่าแป้ง ในส่วนของการวิ่งเป็นการใช้ความหนักในการออกกำลังกายที่มากกว่า และเหนื่อยเร็วกว่า ดังนั้นการวิ่งเร็วๆ และไม่ถึง 30 นาที แล้วต้องหยุดจึงลดไขมันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามหากจะลดไขมันได้นั้น ไม่ได้วัดกันที่การออกกำลังกายแบบไหนเผาผลาญได้มากกว่า แต่ต้องดูว่าทั้งวันเราใช้พลังงานมากน้อยเท่าไหร่ด้วย เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีออกกำลังกายง่ายๆ คุณไม่จำเป็นต้องหาอุปกรณ์ หรือสถานที่ออกกำลังกายให้ยุ่งยาก เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำรงชีวิต ลดการใช้รถสำหรับระยะทางใกล้ๆ เปลี่ยนมาเป็นการเดินออกกำลังกายแทน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ออกกำลังกาย และได้สุขภาพที่แข็งแรงแล้ว